Share this post on: Twitter Facebook

อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ ลงดูความคืบหน้าการดับไฟป่าบางนรา พร้อมสั่งให้ปรับพื้นที่ขยายแนวกันไฟ และขุดเจาะแหล่งน้ำเพื่อสะดวกในการเข้าดับ ล่าสุดยังคงมีไฟหลงเหลือ 5 จุด และมีไฟป่าเพิ่มอีก 2 จุดที่ อ.ยี่งอ-อ.บาเจาะ เสียหายแล้ว 200 ไร่…

เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุไฟไหม้ป่าในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 59 ที่ผ่านมา โดยพื้นที่ทำกินของชาวบ้านและพื้นที่ป่าสงวนเขตลุ่มน้ำบางนรา แปลงที่ 2 ยังคงมีไฟไหม้ป่าหลงเหลืออีก 5 จุด แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ โดยแยกเป็นพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก 2 จุด และ อ.สุไหงปาดี 3 จุด และจากการประเมินพบว่ามีแนวโน้มจะลุกลามขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากกระแสลมที่แปรปรวนที่พัดเอาสะเก็ดไฟปลิวไปในอากาศ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมกำลังเดินทางเข้าไปในป่าฉีดน้ำดับเพลิงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้มีรายงานว่าเกิดเหตุไฟไหม้ป่าเพิ่มเติมที่ อ.ยี่งอ จำนวน 2 จุด และ อ.บาเจาะ จำนวน 2 จุด เสียหายไปแล้วจำนวน 200 ไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นสวนปาล์มในเขตนิคมสหกรณ์บาเจาะ และสวนยางพาราของชาวบ้าน

ขณะที่ล่าสุด นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดับไฟไหม้ป่า พร้อมทั้งร่วมวางแผนหามาตรการในการดับไฟป่า โดยมีนายธนิตย์ หนูยิ้ม ผอ.สำนักอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำ นายสุพจน์ เพริดพริ้ง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 จ.สงขลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ โดยที่ประชุมได้สั่งการให้นำรถแบ็กโฮเข้าทำการปรับพื้นที่ให้เตียนราบเพื่อขยายแนวกันไฟให้มากขึ้น พร้อมทั้งขุดเจาะแหล่งน้ำในทุกระยะ 20 เมตร เพื่อสร้างเป็นแหล่งน้ำถาวรให้ชุดปฏิบัติการดับไฟป่าสามารถนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเข้าทำการดับไฟได้โดยสะดวก

ที่มา: thairath.co.th